คลิกลิงก์ด้านบนเพื่อนำไปสู่เนื้อหาอย่างรวดเร็ว
ภาพรวม
ระบบเกียร์ CVT เป็นนวัตกรรมการส่งกำลังที่มีความราบเรียบ อัตราทดของเฟืองเปลี่ยน โดยการเปลี่ยนแปลงมุมของโรลเลอร์กำลังระหว่างจานขาเข้าและจานขาออก การพัฒนาระบบเกียร์ CVT เริ่มต้นเมื่อ ค.ศ.1877 ต่อมาหนึ่งร้อยปี เอ็น เอส เค นำมาพัฒนาต่อเมื่อ ค.ศ.1978 ใช้เวลาประมาณ 21 ปี ในการพัฒนาการใช้งาน จุดเด่นด้านความราบเรียบ ความเงียบ และการเปลี่ยนอัตราทดของเฟือง รวมถึงการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยของคาร์บอนไดออกไซด์ ระบบเกียร์ CVT POWERTOROS ที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นการออกแบบการส่งที่มีผลมาจากเทคโนโลยีไทรโบโลยีของ เอ็น เอส เค
จุดเด่น
ไทรโบโลยีในระบบเกียร์ CVT
การส่งกำลังจะมีความราบรื่นมากขึ้นหากฟันเฟืองมีขนาดเล็ก แม้ว่าระบบเกียร์ CVT จะไม่มีฟันเฟืองของจริง กำลังจะถูกส่งผ่านกลไกที่เรียกว่า แทรคชั่นไดรฟ ในระบบเกียร์ CVT ซึ่งมีความเงียบและการส่งกำลังอย่างราบเรียบ เป็นชั้นของน้ำมันซึ่งถูกกดด้วยแรงมหาศาลที่ความหนาประมาณ 1/1000 mm ณ จุดสัมผัสระหว่างจานและโรลเลอร์กำลัง น้ำมันชนิดพิเศษนี้มีลักษณะที่ก่อตัวคล้ายกระจก ภายใต้แรงกดดันที่สูง กำลังนั้นถูกส่งจากจานสู่น้ำมันและโรลเลอร์กำลังตามลำดับ อีกนัยหนึ่งตั้งแต่ผิวสัมผัสโรลลิ่งอยู่ภายใต้แรงดันที่สูง ความทนทานของผิวสัมผัสนั้นเป็นปัญหา เอ็น เอส เค ใช้เทคโนโลยีไทรโบโลยีเพื่อพัฒนาเหล็ก CVT ให้มีความบริสุทธิ์สูง โดยการขจัดสารอโลหะออกมาเท่าที่จะทำได้ วัสดุนี้มีความแข็งเกร็งที่คงที่โดยการเพิ่มสารประกอบออสเทนไนต์ในเหล็กซึ่งช่วยลดความอันตรายจากสสารที่ปนเปื้อนเข้าไปในเฟือง
ระบบ power-split
รุ่นถัดมาจากระบบเกียร์ CVT ซึ่งมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ระบบนี้ใช้เฟืองแพลนเนตตารีรวมเข้ากับระบบเกียร์ CVT และกลไลของเฟืองแพลนเนตตารี ความเร็วในการไหลเวียนของกำลัง การเปลี่ยนแปลงกลไลเกิดขึ้นตามทฤษฎีก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้พัฒนามาตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระดับของความเร็วที่ดีที่สุด ด้วยการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองรูปแบบ ระบบ power-split ทำได้ในช่วงของความเร็วที่กว้าง และประสิทธิภาพที่สูงจากการส่งกำลัง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงความเร็วในอุดมคติ
(การผสมผสานจากเฟืองแพลนเนตตารี ช่วยให้การส่งกำลังของเครื่องยนต์ไปสู่ล้อได้โดยตรง โดยการผ่านระบบเกียร์ CVT)
